My Seoul Memory

Gwanghwamun Square 광화문광장 ประตูควางฮวามุน           สถานที่ทางหมวดประวัติศาสตร์ที่แรกที่เราภูมิใจนำเสนอ ทุกคนพร้อมจะไปท่องโลกประวัติศาสตร์เกาหลีกันแล้วใช่ไหมคะ งั้นเราไปทำความรู้จักกับจัตุรัสควางฮวามุนกันเลย !  จัตุรัสควางฮวามุนแห่งนี้นับว่าเป็นศูนย์กลางประวัติศาสตร์ของกรุงโซลที่ยาวนานกว่า 600 ปี เป็นลานกว้างอยู่กลางถนนเซจง ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร ตั้งอยู่ระหว่างสี่แยกเซจงแดโรและประตูควางฮามุน ตัวจัตุรัสแบ่งเป็น 4 โซน คือ จุดเชื่อมต่อคลองชองกเยชอน ,  โซนวัฒนธรรม ,  พื้นที่ประวัติศาสตร์ ,  และโซนที่ฟื้นฟูบูรณะ ซึ่งถ้าใครอยากทราบถึงประวัติความเป็นมา แน่นอนว่าในแต่ละโซนจะมีส่วนที่บอกเล่าถึงความเป็นมาให้ผู้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้อ่าน แล้วทุกคนทราบไหมคะว่าทำไมจัตุรัสนี้ถึงเป็นที่ที่มีชื่อเสียงในเรื่องของบรรยากาศที่สวยงาม นั่นก็เป็นเพราะว่าพื้นที่บริเวณจัตุรัสได้ถูกออกแบบให้กลมกลืนกับทัศนียภาพของพระราชวังคยองบกที่ตั้งตระหง่านและภูเขาบูกักซานที่วางตัวเป็นแนวยาวสูงใหญ่อยู่ทางด้านหลังอย่างไรล่ะ บริเวณจัตุรัส           กลางจัตุรัสจะมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระเจ้าเซจงอันสูงเด่นเป็นสง่าตั้งอยู่ กษัตริย์

Gyeongbokgung Palace 경복궁 Geunjeongjeon Hall                เมื่อนึกถึงประวัติศาสตร์เกาหลี ทุกคนนึกถึงสถานที่ไหนเป็นสถานที่แรกกันบ้างคะ แน่นอนเลยว่าต้องไม่พ้นไปจากที่นี่ ที่ที่คนส่วนใหญ่รู้จักเป็นอย่างดี นั่นก็คือ พระราชคยองบกแห่งนี้  พระราชวังหลักซึ่งใหญ่และสวยงามที่สุดในราชวงศ์โชซอนนั่นเอง ชื่อของพระราชวังนี้มีความหมายว่า "พระราชวังแห่งพรที่ส่องสว่าง" ตัวพระราชวังตั้งอยู่ทางเหนือของเมืองโซล หน้าภูเขาบูกักซาน พระราชวังคยองบกสร้างขึ้นในปี ค.ศ.1395 ผ่านเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์มามากมาย ก่อนที่จะได้รับการฟื้นฟูในปี ค.ศ.1868           บริเวณหน้าประตูควางฮวามุน มีการแสดงผลัดเปลี่ยนเวรยามของทหารราชองครักษ์รอบละ10นาที เวลา 11.00 14.00 และ 16.00 น. นอกจากนี้บริเวณหน้าประตูฮึงแนมุนก็มีการแสดงเช่นกัน เวลา 10.00 13.00 และ 15.00 น. ถ้าใครมาชมพระราชวังในช่วงเวลาเหล่านี้ ก็อย่าลืมแวะไปชมกันนะคะ           จุดหลักในพระราชวังคยองบกที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว มีอยู่ 3 จุดเด่นๆด้วยกัน จะมีที่ไหนบ้าง ตามเรามาเลยค่ะ ~ Geunjeongjeon Hall             พระที่นั่งหลักที่เป็นทางการและมีข

 Changdeokgung Palace 창덕궁           อีกหนึ่งพระราชวังสำคัญของกรุงโซล พระราชวังชางด็อก ที่ได้ชื่อว่า “ พระราชวังอันเป็นที่รักแห่งราชวงศ์โชซอน ” สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1405 ตัวพระราชวังได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดในบรรดาพระราชวังทั้งหมด จึงยังคงความสวยงามด้านสถาปัตยกรรมไว้ได้ ถือว่าทรงคุณค่าในด้านประวัติศาสตร์เป็นอย่างมาก วังแห่งนี้เป็นศูนย์กลางของราชวงศ์โชซอนยาวนานกว่า 300 ปี โดยกษัตริย์ได้ใช้เป็นที่ประทับและว่าราชการ แต่ในช่วงสงครามพระราชวังชางด็อกก็ได้ถูกเผาทำลายเช่นกัน และได้รับการบูรณะหลายครั้งจนกลับมามีสภาพคล้ายเดิมมากที่สุด ในปี ค.ศ.1997 พระราชวังชางด็อกได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกโดย UNESCO อีกด้วยค่ะ           จุดเด่นที่ห้ามพลาดของพระราชวังชางด็อกคือมีส่วนของ "อุทยานฮูวอนหรือสวนลับ" ซึ่ง ตั้งอยู่ด้านหลังของตัวพระราชวัง  เป็นสวนขนาดใหญ่ที่กษัตริย์และราชวงศ์ใช้เป็นที่พักผ่อนและเดินเล่น ภายในสวนมีสระน้ำและตำหนักมากมาย นอกจากนี้สวนลับจะมีความงดงามเป็นอย่างมากในช่วงฤดูใบไม้ร่วงจากต้นแปะก๊วยที่ใบเปลี่ยนเป็นสีเหลืองพร้อมกัน *การเข้าชมสวนนี้ต้องเข้าชมพร้อมไกด์เป็นรอบเท่านั้น รอบ

Bukchon Hanok Village 북촌한옥마을           ย่านถ่ายรูปสุดฮิตที่ไม่ว่าใครไปเที่ยวโซลก็ต้องแวะไป เพราะบรรยากาศที่สวยงามของบ้านเรือนเกาหลีแบบโบราณบนเนินเขา ทำให้มีทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นแวะเวียนไปชมอยู่ตลอดเวลา สำหรับชื่อของหมู่บ้านนั้น แปลตรงตัวว่า "หมู่บ้านทางเหนือ" ตัวอาคารบ้านเรือนยังคงรักษาสถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิมไว้ได้เป็นอย่างดี ขณะที่บ้านบางหลังก็มีการปรับเปลี่ยนไปเป็นพิพิธภัณฑ์ ร้านอาหาร ร้านกาแฟ ร้านขายของที่ระลึก เพื่อรองรับนักท่องเที่ยว แต่ก็ยังรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายทางวัฒนธรรมในอดีตที่แทรกซึมอยู่กับวิถีชีวิตในปัจจุบันอย่างลงตัว ส่วนใครที่กำลังหาจุดถ่ายรูปสวยๆ ภายในบริเวณหมู่บ้าน จะมีป้ายแนะนำจุดถ่ายรูปแปะไว้ด้วยทั้งหมด 8 จุด เรียกได้ว่าเป็นมุมห้ามพลาดของนักท่องเที่ยวเลยทีเดียว โดยจุดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ บริเวณถนน Gahoe ถนน  Gahoe เวลาเปิดให้บริการ : ตลอดเวลา ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ฟรี การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน  สาย 3 สถานี Anguk  ออกทางออกที่ 2 ต่อรถเมล์สาย Jongno01 หรือ  Jongno02 (คันสีเขียว) ลงที่ป้าย  Bukchon Hanok Village

Jogyesa Temple 조계사           เมื่อกล่าวถึงศาสนาพุทธในเกาหลีใต้ จะขาดวัดที่เป็นวัดหลักและเป็นศูนย์กลางของพุทธศาสนิกชนอย่างวัดโชเกซาไปไม่ได้เลย วัดนี้ถูกสร้างในปี ค.ศ. 1395 แต่ ค้นพบในปี ค.ศ. 1910 เดิมเรียกกันว่า วัดฮวางกักซา ส่วน คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดพระยิ้ม ต่อมาวัดได้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นโชเกซาในสมัยที่อยู่ใต้การปกครองของญี่ปุ่น และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน บรรยากาศภายในวัดให้ความรู้สึกสงบเงียบ แม้จะตั้งอยู่ในย่านชุมชนใหญ่ ท่ามกลางความวุ่นวายของสังคมเมืองอย่างโซล วิหารหลักของวัด           หลังจากเดินดูบริเวณภายนอกเสร็จแล้ว ลองไปดูด้านในของตัววัดกันบ้างนะคะ ภายในจะมีวิหารไม้หลังใหญ่ที่มีอายุมากกว่า 500 ปี มีองค์พระประธาน 3 องค์ ที่คนเกาหลีจำนวนมากนิยมไปนมัสการขอพร รวมถึงประกอบพิธีต่างๆ รอบวิหารประดับไปด้วยภาพวาดเล่าพุทธประวัติบนแผ่นไม้ที่ติดไว้ และต้นสนเก่าแก่จากเมืองจีน ด้านหน้าวิหารยังมีเจดีย์ 7 ชั้น ที่เชื่อกันว่าศักดิ์สิทธิ์ในการกราบขอพร นอกจากนี้ก่อนถึงวันวิสาขบูชาของเกาหลี ที่วัดจะมีการจัดขบวนแห่โคมไฟดอกบัวถึงหนึ่งแสนดวงอย่างยิ่งใหญ่และสวยงามให้เราได้รับชมอีกด้วย ถ้าใครอยากเห็นก

  N Seoul Tower 남산서울타워          N Seoul Tower หรือ  นัมซานทาวเวอร์ แลนด์มาร์คที่ไม่ว่าใครเห็นก็ต้องร้อง อ๋ออออ ทันที ว่านี่แหละ โซลแน่นอน!!! N Seoul Tower ตั้งอยู่บนเขานัมซาน มีความสูง 236.7 เมตร ในตอนแรกสร้างขึ้นเพื่อใช้ส่งสัญญาณวิทยุโทรทัศน์ และเริ่มเปิดให้คนขึ้นชมได้เมื่อปี ค.ศ. 1980  สำหรับใครที่ต้องการขึ้นไปชมวิวด้านบนต้องซื้อตั๋วเข้าชมนะคะ แต่ถ้าไม่ขึ้นก็สามารถเดินชมวิวบริเวณรอบๆได้ตามสบายเลย          ด้านบนของ N Seoul Tower สามารถชมวิวเมืองโซลได้รอบทุกทิศทาง 360 องศา และมองเห็นสถานที่สำคัญๆต่างในกรุงโซลได้มากมาย เช่น พระราชวังคยองบก สถานีรถไฟ Seoul สำหรับร้านอาหารด้านบนหอคอยมี 2 ร้าน ได้แก่  n.GRILL  ร้านอาหารฝรั่งเศส ที่อยู่ชั้นบนสุด และร้านอาหารเกาหลี HANCOOK ส่วนด้านล่างหอคอยก็มีอาหาร Fast food ร้าน  N Burger  ร้านกาแฟ และShopต่างๆ เปิดให้บริการค่ะ  วิวจากด้านบนของนัมซานทาวเวอร์          บริเวณสวนรอบๆฐาน N Seoul Tower สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต้องเห็นแน่นอนก็คือ  แม่กุญแจหลากสี ที่คล้องอยู่กับ รั้วอย่างหนาแน่นทุกพื้นที่ มองไปทางไหนก็เจอค่ะ สาเหตุที่มีจำนวนเยอะมากขนาดนี้  นั่นเป็นเพรา

  Cheonggyecheon Stream 청계천           คลองชองกเยชอนเป็นคลองโบราณเก่าแก่ตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซอน มีอายุมากกว่า 600 ปี ในอดีตคลองแห่งนี้เคยถูกสร้างทางด่วนคร่อมและเกิดชุมชนหนาแน่นในหลายจุด ทำให้สภาพน้ำในคลองเน่าเสียเกิดปัญหามลพิษขึ้น ต่อมาในปี ค.ศ. 2002 จึงได้มีการปรับภูมิทัศน์ด้วยการรื้อทางด่วนและปรับสภาพแวดล้อมโดยรอบ ทำให้คลองแห่งนี้กลับมาใสสะอาดกลายเป็นแหล่งพักผ่อนใจกลางเมืองของชาวกรุงโซลตลอดมา ตัวคลองนั้นยาวถึง 6 กิโลเมตร เพื่อนๆสามารถเลือกเดินชมได้ตามใจชอบเลยนะคะ อาจจะเป็นบริเวณที่น่าสนใจอย่าง  Cheonggye Plaza  จตุรัสบริเวณต้นคลอง ที่คนส่วนมากนิยมก็ได้ค่ะ         ในช่วงเวลาโอกาสพิเศษต่างๆ เช่น เทศกาลขึ้นปีใหม่ จะมีการประดับไฟตกแต่งตลอดคลองชองกเยชอนอย่างสวยงาม ทำให้ทั้งนักท่องเที่ยวและชาวเกาหลีเองออกมาเดินเล่นชมไฟกันอย่างคึกคัก ให้ความรู้สึกถึงช่วงเทศกาลได้ดีมากๆ จนอยากให้ทุกคนได้มาเห็นด้วยตาตัวเองเลยจริงๆ เวลาเปิดให้บริการ : ตลอดเวลา ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ฟรี การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน  สาย 5   สถานี G wanghwamun (บริเวณต้นคลอง จตุรัส Cheonggye Plaza) สำหรับจุดน่าสนใจอื่นๆที่อยู่ตามแน

Dongdaemun Design Plaza 동대문디자인플라자 (DDP)          ศูนย์รวมแห่งการดีไซน์ของเกาหลี หรืออาคารรูปทรงล้ำสมัยสีเงินแห่งนี้  ได้รับการออกแบบโดย Zaha Hadid  สถาปนิกชาวอิรัก-อังกฤษ ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ก่อตั้งเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2014  ภายในเป็น พื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ งานแสดงโชว์สินค้า ห้องประชุม เรียกได้ว่าเป็นพลาซ่าที่มีขนาดใหญ่มาก แถมยังเป็นที่จัดงาน Seoul Fashion Week ของทุกปีอีกด้วย ส่วนพื้นที่บริเวณโดยรอบจะเห็นคนชอบมาถ่ายรูปกันอยู่บ่อยๆ ใครอยากมีรูปเก๋ๆไปลงโซเชียลต่างๆ เราว่าที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจเลยนะ ภายใน  Dongdaemun Design Plaza เวลาเปิดให้บริการ : 10:00 - 19:00 น. ปิดทุกวันจันทร์  ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ฟรี การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน สาย 2 , สาย 4 และ  สาย 5   สถานี  Dongdaemun History & Culture Park ทางออกที่ 1

 Ewha Womans University 이화여자대학교           มหาวิทยาลัยสตรีอีฮวาได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอินของเหล่านักท่องเที่ยว ด้วยตึก  Ewha Campus Complex (ECC) ที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวฝรั่งเศส  Dominique Perrault เพราะตัวอาคารมีรูปแบบแปลกใหม่เป็นเอกลักษณ์ อย่างการสร้างผ่าเนินเขาแล้วกรุด้วยกระจกทั้งสองด้าน รวมกับทัศนียภาพโดยรอบที่สวยงาม ภายในจะเป็นห้องเรียน ห้องสมุด ร้านกาแฟ โรงอาหาร ส่วนด้านบนดาดฟ้ายังมีเนินสวนลาดขึ้นไป ไว้ให้ผู้คนไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจอีกด้วย สวนด้านบนตึก  Ewha Campus Complex (ECC)          นอกจากนี้ในบริเวณมหาวิทยาลัยยังมีตึกอื่นที่มีสถาปัตยกรรมสวยงามเช่นกัน เช่น ตึก  Welch-Ryang Auditorium เวลาเปิดให้บริการ : 10:00 - 17:00 น. ปิดเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ฟรี การเดินทาง : รถไฟใต้ดิน  สาย 2  สถานี  Ewha Womans University  ออกทางออกที่ 2,3 เดินตรงไปมหาวิทยาลัยตามถนน รถไฟ สาย  Gyeongui-Jungang สถานี Sinchon ออกทางออกที่ 2

Starfield Library 별마당 도서관          เชื่อไหมคะว่าถ้าเพื่อนๆคนไหนติดตามอินสตาแกรมของคนเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นศิลปินดาราหรือคนธรรมดาทั่วไป หลายๆคนจะต้องเคยเห็นสถานที่นี้แน่นอน ห้องสมุดชื่อดัง Starfield Library ที่รวบรวมหนังสือไว้มากกว่า 50,000 เล่ม ด้วยการดีไซน์ชั้นวางหนังสือสูงถึง 13 เมตร นอกจากนี้บริเวณลานกว้างกลางห้องสมุดยังมีการจัดนิทรรศการต่างๆหลากหลายแบบ เพราะฉะนั้นถ้าใครจะมานั่งอ่านหนังสืออย่างจริงจังในนี้อาจจะต้องใช้สมาธิมากหน่อย เพราะว่าคนค่อนข้างเยอะ พลุกพล่าน และเสียงดังพอสมควรค่ะ          ตัวห้องสมุดนั้นตั้งอยู่ใจกลางห้าง Coex ซึ่งนอกจากร้านค้ามากมายที่มีให้เราช็อปปิ้งอย่างจุใจแล้ว ยังมีศูนย์ประชุมสัมมนา ศูนย์แสดงสินค้า  Aquarium  โรงแรม  InterContinental Seoul COEX  เรียกได้ว่าครบถ้วนเลยทีเดียว นอกจากนี้ สำหรับคนที่ชื่นชอบศิลปินจากค่าย SM Entertainment (เช่นเดียวกับเรา) ที่นี่ยังเคยเป็นที่ตั้งของ  SMTOWN Coex Artium ที่มีทั้งพิพิธภัณฑ์และร้านขายของ แต่เป็นที่น่าเสียดายอย่างมาก เพราะได้ปิดไปแล้วเมื่อกลางปี ค.ศ.2020 เวลาเปิดให้บริการ : 10:30 - 22:00 น. ค่าใช้จ่ายในการเข้าชม : ฟรี ก